top of page

4.2 การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาไม่เหมาะสม

EmbeddedImage.jpg
การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศรูปแบบหนึ่งที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด คือ อินเทอร์เน็ต ซึ่งถือว่าเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีคอมพิวเตอร์หลายเครือข่ายทั่วโลกเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งการเชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ดังกล่าวสามารถทำได้โดย ผ่านคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต แต่ละคนก็มีจุดประสงค์แตกต่างกัน เช่น เพื่อต้องการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อต้องการค้นหาข้อมูล เป็นต้น โดยจะเห็นว่าการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ใดเราสามารถพบข้อมูลหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยเนื้อหาดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อทั้งตนเอง คนรอบข้าง และสังคมได้ง่าย เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมมีทั้งรูปแบบข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียง เช่น เนื้อหาเกี่ยวกับการพนัน เนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร เนื้อหาเกี่ยวกับการคุกคาม เนื้อหาเกี่ยวกับการหลอกลวงหรือข่มขู่ต่างๆ เป็นต้น
1. รูปแบบของเนื้อหาเกี่ยวกับการพนัน
การพนันหรือการเสี่ยงโชค มักจะพบอยู่ในรูปแบบของเนื้อหาโฆษณาต่าง ๆ เพื่อชักจูงให้เข้าไปร่วมเล่น โดยแสดงให้เห็นถึงผลตอบแทนที่สูง กับการลงทุนที่น้อย หรือ ไม่เสียค่าลงทุนเล่นฟรี และได้เงินตอบแทน บ่อยครั้งที่บุคคลเข้าสู้เนื้อหาได้กล่าวด้วยความไม่ตั้งใจ เมื่อคนส่วนใหญ่เข้าไปแล้วพบว่าได้เงินจริง จึงติดการเล่นพนัน และเมื่อแพ้ก็จะเล่นไปเรื่อยๆ เพื่อเอาขึ้นจนสุดท้ายก็หมดตัว

การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับการพนัน

- เมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับการพนันในระหว่างการใช้งานอินเทอร์เน็ต ควรแจ้งผู้ใหญ่ หรือ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เป็นต้น

- ไม่ควรโอนเงินให้กับคนที่เราไม่รู้จัก หรือ จากเนื้อหาที่กล่าวอ้างว่ามีเงินตอบแทน หากเราโอนเงินไป

- เมื่อพบเนื้อหาโฆษณาที่ไม่เหมาะสม หรือ เข้าข่ายลอกลวงให้ไปเล่นการพนัน ควรแจ้งผู้ใหญ่ หรือ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หรือ แจ้งไปยังผู้ดูแลเว็บไซต์

คาสิโนออนไลน์.jpg
2. รูปแบบของเนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร
บางครั้งเรียกว่าสื่อสำหรับผู้ใหญ่ มักเป็นสื่อที่มีการแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเร้าอารมณ์ทางเพศ ทำให้ผู้ที่รับข้อมูลเกิดอารมณ์ทางเพศได้ง่าย เนื้อหาข้อมูลจะถูกส่งมาในรูปแบบของภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ทางเพศต่างๆ ที่เป็นของเทียม เนื้อหาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารมักถูกแสดงอยู่ในรูปแบบของเว็บไซต์และสื่อโฆษณา ซึ่งปัญหาของสื่อลามกอนาจารบ่อยครั้งอาจนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรมต่างๆที่ผิดต่อศีลธรรมได้

การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาสื่อลามกอนาจาร

- เมื่อพบเนื้อหาที่เกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร ควรแจ้งผู้ใหญ่ หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เป็นต้น

- ควรติดตั้งโปรแกรมในการบล็อกเว็บไซต์ที่แปลกปลอม หรือ Application ที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

- ควรตั้งค่าความปลอดภัยในโปรแกรมหรือระบบปฏิบัติการเพื่อไม่ให้เข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

cdic_2015_sextortion_6.jpg
3. รูปแบบของเนื้อหาเกี่ยวกับการหลอกลวง
การเติบโตของสื่อสังคมออนไลน์หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ในปัจจุบัน เช่น Facebook Line Twitter เว็บบล็อก ทำให้คนในสังคมสามารถทำความรู้จักกัน และเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวได้ง่ายทั้งรูปภาพ วีดีโอของตนเองมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และความสนใจร่วมกัน และมีการสร้างกลุ่มคนหรือเครือข่ายของชุมชนเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ มากมาย เช่น เพื่อการศึกษา เพื่อการค้า เพื่อการเมือง เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยในสิ่งที่มีความคิดเห็นตรงกันหรือต่างกัน โดยลืมไปว่าข้อมูลส่วนตัวที่ได้รับการเปิดเผยไปนั้นกลุ่มบุคคลที่อยู่ในเครือข่ายที่ไม่ประสงค์ดี อาจนำข้อมูลของเราไปใช้เพื่อหาช่องในการเข้ามาหลอกลวงทำให้เกิดความเสียหายแก่ตนเองหรือนำไปหลอกลวงผู้อื่นได้ เช่น หลอกลวงให้โอนเงิน หลอกลวงให้ร่วมลงทุน หลอกลวงให้ออกมาพบปะและกระทำการไม่สมควรกับตัวเรารวมถึงครอบครัว
ttt_terrorist_on_computer-oneinchpunch.j

การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับการหลอกลวง

- ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเป็นสาธารณะ

- เมื่อมีใครมาบอกให้โอนเงิน ร่วมลงทุนหรือนัดเจอ ควรรีบแจ้งหรือปรึกษาผู้ใหญ่ทันที

- ไม่ควรเขียนข้อความที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเรา หรือเกี่ยวกับครอบครัวของเราต่อสาธารณะ

4. รูปแบบของเนื้อหาเกี่ยวกับการคุกคามหรือข่มขู่
ถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก นอกจากการสร้างความเดือดร้อนและความรำคาญแล้ว ก็ยังมีผลกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล รวมถึงความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน ทั้งจิตใจและอารมณ์ ทรัพย์สิน ตลอดจนร่างกายและชีวิต อาจนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ได้ โดยการคุกคามหรือข่มขู่ส่งมาในรูปแบบที่เป็นข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียง โดยการใช้ระบบออนไลน์ เช่น อีเมล เว็บบอร์ด ห้องสนทนา หรือผ่านสื่อสังคมออนไลน์รูปแบบต่างๆ ซึ่งรูปแบบในการคุกคามอาจจะเป็นการคุกคามต่อผู้ใช้โดยตรง หรือการคุกคามโดยการยุยง ปลุกปั่นต่อบุคคลที่สามก็ได้

การปฏิบัติตนเมื่อพบเนื้อหาเกี่ยวกับการคุกคามหรือข่มขู่

- ไม่เปิดอ่านอีเมล์ใดๆที่ไม่รู้จักหรือไม่ระบุตัวตน หรือระบุตัวตนไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียงจากคนที่เราไม่รู้จัก

- เมื่อมีการพูดคุยกับบุคคลอื่นผ่านเว็บบอร์ด หรือห้องสนทนากรณีมีการถามถึงข้อมูลส่วนตัว ครอบครัว หรือคนรู้จักให้หยุดพูดคุยกันที

- เมื่อมีข้อความใด ๆ ที่คิดว่าเป็นการคุกคาม ข่มขู่ ให้รีบแจ้งผู้ใหญ่หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เป็นต้น

ciberterrorismo.jpg
bottom of page